รับ เครดิต ฟรี， มันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ใครๆก็รู้ว่า เชลซี สุดยอดขนาดไหน พวกเขามีสถิติการเล่นในบ้านที่น่ากลัว 86 นัดพวกเขาไม่เคยแพ้ ซึ่งจะมีกี่ทีมที่ทำได้ เราเอาชนะพวกเขาได้เพราะทุกคนต่างช่วยกัน ลูกทีมทุกคนแสดงให้เห็นว่า มีความเด็ดเดี่ยว และกระหายในชัยชนะ ผมพูดได้เต็มปากเลยว่ามาถึงตอนนี้ เรามองถึงแชมป์ ราฟา กล่าว ลงมาลุยครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินหน้าบุกใส่อย่างหนัก นาทีที่ 55 เกมทำท่าจะเดือดเมื่อ ฟิล เนวิลล์ ไม่ไว้หน้าเพื่อนเก่าไล่เสียบ โรนัลโด้ จนลงไปนอนดิ้นกับพื้น ริโอ เฟอร์ดินานด์ รวมถึง กิ๊กส์ ปรี่เข้ามาจะเอาเรื่องเนวิลล์ผู้น้อง แต่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายห้ามศึกไว้ได้ทัน และผู้ตัดสิน อลัน ไวลี่ย์ ก็ชักใบเหลืองให้กัปตันทีมเจ้าถิ่นไปแต่เมื่อเกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 63 ทอฟฟี่สีน้ำเงิน บดเสมอ 1-1 จนได้ เนวิลล์ เปิดจากกราบขวาจากจังหวะที่ เฟอร์ดินานด์ เคลียร์ไม่ขาดให้ มารูยาน เฟลไลนี่ กระโดดโหม่งเหนือ วิดิช ส่งลูกหนังเสียบเสาสุดปัญญาที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะป้องกันไว้ได้ สองนาทีถัดมา เฟอร์ดินานด์ ก็โชว์เหวอ เมื่อส่งบอลคืนหลังเบาเกินไปโดน ยาคูบู ฉกบอลไปยิงเน้นๆ ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดได้ปลายมือลูกหนังเปลี่ยนทางไปชนเสากระเด้งออกมา เมื่อเกมเริ่มปั่นป่วน เฟอร์กี้ ต้องปรับหมากใส่ อันแดร์สัน ไปช่วยแดนกลางแทนที่ ปาร์ค alonsotourexaviyayaชาบีตูเร่บาร์เซโลน่ายาย่าลิเวอร์พูลหงส์แดงอลอนโซ่แอตเลติโก มาดริด : เลโอ ฟรานโก้, อัลบาโร่ โซโต้, หลุยส์ เปเรีย, อันโตนิโอ โลเปซ, จิออร์กาส ไซตาริดิส, นาโช่ คามาโช่, มานิเช่, ซิเมา, หลุยส์ การ์เซีย, ฟลอรองต์ ซิเนม่า ปงโกลล์, ดิเอโก้ ฟอร์ลัน

แม้เจ้าตัวจะมาซ้อมได้ในวันจันทร์ แต่ก็มาในสภาพอิดโรยไม่พร้อม สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับมูรินโญ่ และตั้งใจจะดร็อปอาดรี้จากเกมกับฟิออเรนติน่า ในวันพุธนี้ ทั้งนี้ อดัมส์ ซึ่งเคยรับงานกุนซือ วีคอมบ์ ช่วงสั้นๆ ในปี 2003 ปฏิเสธไปเป็นผู้ช่วยของแฮร์รี่ เรดแนปป์ ในถิ่น ไก่เดือยทอง เนื่องจากเจ้าตัวเป็นกัปตันทีมของ ปืนใหญ่ คู่อริโดยตรง ก่อนได้โอกาสทำหน้าที่ชั่วคราวร่วมกับ โจ จอร์แดน โค้ชทีมชุดใหญ่ในเกม พรีเมียร์ชิพ ที่ ปอร์ทสมัธ เปิดบ้านเสมอกับ ฟูแล่ม 1-1 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะประเดิมคุมทีมอย่างเป็นทางการนัดแรกด้วยการบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงในวันพุธนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซืออินเตอร์ มิลาน ออกมาแสดงความชื่นชมผลงานของลูกทีมออกนอกหน้าว่าเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ก็ว่าได้ หลังจากบุกไปเอาชนะโรม่า 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เริ่มเกมมาถึง น.6 เยอรมนี ก็มาได้ลุ้นทำประตูก่อนจากจังหวะที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม เติมเกมบุกขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยขวาแต่วางเท้าไม่ดีทำให้บอลเบาหลุดเสาออกหลังไป อีกสองนาทีต่อมา โคลเซ่ พยายามจะจับบอลในเขตโทษบอลโดนไม่ดีกระดอนมาเข้าทาง บัลลัค ได้ซัดเต็มๆแต่ถูก อคินเฟเยฟ ปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด แต่ 3 นาทีต่อมาเยอรมนี ก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ โคลเซ่ เลี้ยงบอลลุยเข้ามาก่อนจ่ายให้ โพดอลสกี้ พลิกหนี ก่อนวิ่งแซงกองหลังหมีขาวหลุดไปซัดผ่านมือ อคินเฟเยฟ เข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 1-0 ด้าน รัสเซีย ก็มาได้ลุ้นทำประตูเช่นกันใน น.20 ซูริยานอฟ ลากลุยขึ้นมาซัดเต็มแรงด้วยเท้าซ้ายแต่ยังดีที่ แอดเนอร์ ออกมาปิดมุมปัดออกไปได้ทัน ทีมเยือนมาได้ลุ้นอีกครั้งใน น.27 เมื่อ อิ๊กนาเชวิช กองหลังตัวเก่งได้ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลเฉียดคานออกไปนิดเดียว แต่ เยอรมนี ก็ทำประตูหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะ ลาห์ม ว่างทางฝั่งซ้าย ก่อนไหลให้ ชไวน์สไตเกอร์ รับบอลได้ในเขตโทษ และหยอดมาทางเสาสอง เป็น บัลลัค วิ่งเข้ามาซัดอย่างง่ายดายเข้าไปให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 5 นาที รัสเซีย แก้เกมมาดี และก็มาทำประตูไล่มาสำเร็จ จากจังหวะที่กองหลังเจ้าถิ่นทำผิดพลาดเสียบอลบริเวณริมกรอบเขตโทษทำให้ อีวาน ซาเอนโก้ ที่เพิ่งจะลงสนามมาฉกบอลลากเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะเปิดเข้ากลาง ปรากฏว่าบอลลอดขานายทวารเมืองเบียร์หลุดมาถึง อาร์ชาวิน แปบอลเข้าไปสบายให้หมีขาวไล่มา 1-2